นั่งกับพระคริสต์

(แปลจาก Seated With Christ By Jeff Fitzgeraldhttp://www.graceorlando.com/seated-with-christ/) 

มีคำอยู่ 2 คำที่พ่อแม่ชอบพูดกับลูก ๆ ของพวกเขา ซึ่งจะถูกพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกเสมอโดยเฉพาะกับเด็กที่อายุราว ๆ 2-6 ปี คุณอาจพอรู้แล้วว่าผมหมายถึงคำใด ลองดูครับ ลองเดาดู 2 คำนั้นก็คือ "นั่งลง" บางทีคุณอาจกำลังพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ในเวลานี้หรือคุณอาจกำลังหัวเราะเพราะนึกได้ถึงหลายครั้งที่คุณเคยพูดคำนี้กับลูก ๆ ของคุณ

ในฐานะที่เป็นพ่อของเด็ก 2 คน ผมสรุปได้ว่ามันมีบางสิ่งภายในเด็กแต่ละคนที่ชอบที่จะยืนขึ้น (โดยเฉพาะในร้านอาหาร) มากกว่าที่จะนั่งลง

วันหนึ่งขณะที่ผมได้ยินตัวเองพูดคำนี้ ความคิดหนึ่งก็เข้ามา ถ้าผมในฐานะที่เป็นพ่อที่พูดคำนี้กับลูกของผมทุกวัน แน่นอนว่ามันต้องมีบางคำที่พระบิดาแห่งสวรรค์ของเราก็พร่ำพูดกับเราเสมอในฐานะที่เราเป็นลูกของพระองค์

ท่ามกลางคำแห่งชีวิตมากมายที่พระบิดากำลังพูดกับเราทุกวันอย่างไม่ต้องสงสัย ผมเชื่อว่ามีอยู่ 3 คำที่ทรงพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่เสมอ ก่อนที่ผมจะบอกว่ามันคือคำใด ขอผมย้ำเตือนคุณก่อนว่าก่อนที่พระองค์จะตรัสสิ่งใดพระองค์ทรงพิจารณาแล้วอย่างมาก เมื่อทรงตรัสว่า "จงมีความสว่าง" ความสว่างก็เกิดขึ้น เมื่อพระองค์ตรัสว่า "ลาซารัสเอ๋ย ออกมาเถิด"  สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริง

เมื่อพระเจ้าตรัส พระองค์กำลังประกาศความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์เห็นและตั้งใจให้เป็น ในทางกลับกันคำของเรามักจะบอกออกมาถึงความประพฤติที่เป็นที่ต้องการ

เอาละ นี่คือคำ 3 คำที่ผมเชื่อว่าพระเจ้ากำลังพูดกับผู้เชื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เสมอจนกว่าเราจะตระหนัก.. "นั่งกับพระคริสต์" โดยปกติในมุมมองของมนุษย์แล้ว การกระทำที่เราต้องการจากเด็ก ๆ ควรจะเกิดหลังจากที่เราได้พูดสิ่งนั้น แต่จากมุมมองของพระเจ้า มันไม่ใช่การกระทำที่พระเจ้ากำลังรอจากเรา แต่เป็นความเป็นจริงที่ถูกประกาศออกมา คือประโยคแห่งตัวตนที่แท้จริงของเรา! การที่เรากำลังนั่งอยู่กับพระองค์นี้เป็นความจริงในปัจจุบันที่ได้เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่อดีต ตั้งแต่ขณะที่เราได้เชื่อในงานของพระคริสต์บนไม้กางเขนนั้น เราได้นั่งร่วมกับพระคริสต์แล้ว!

"แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา เพราะเหตุความรักอันใหญ่หลวง ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น ถึงแม้ว่าเมื่อเราตายไปแล้วในการบาป พระองค์ยังทรงกระทำให้เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ (ซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณ) และพระองค์ทรงให้เราเป็นขึ้นมากับพระองค์ และทรงโปรดให้เรานั่งในสวรรคสถานกับพระเยซูคริสต์" (เอเฟซัส 2:6)

ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าผมไม่ได้ต้องทำอะไรเพื่อจะซื้อความจริงนี้ นอกจากแค่เชื่อ พระเจ้าคือผู้ที่ทำให้กับเรา! ผู้เชื่อมากมายเดินไปเดินมาโดยคิดว่าวันหนึ่งฉันจะสามารถนั่งลงและพักอยู่ในสวรรค์ถ้าฉันอธิษฐานให้มากพอ หรือถ้าฉันบริสุทธิ์พอ แต่ความจริงก็คือคุณได้นั่งร่วมกับพระคริสต์แล้ว! เหมือนกับลูก ๆ ของเรา เราพบว่ามันยากมากที่จะนั่งลง หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผู้เชื่อที่จะทำก็คือการพักสงบอย่างง่าย ๆ พักสงบในงานของพระองค์ พักสงบในความชอบธรรมของพระองค์ พักสงบในความรักของพระองค์ พักสงบในการยอมรับของพระองค์ พักสงบในความบริสุทธิ์ของพระองค์

การพักสงบคือบางสิ่งที่เป็นจริงในสวรรค์ทันทีที่เราต้อนรับพระคริสต์ ผู้เขียนฮีบรูได้กล่าวไว้ดังนี้

"เพราะว่าถ้าโยชูวาได้พาเขาเข้าสู่การพำนักนั้นแล้ว พระเจ้าก็คงมิได้ตรัสในภายหลังถึงวันอื่นอีก ฉะนั้นจึงยังมีการพำนักสะบาโตสำหรับชนชาติของพระเจ้า เพราะว่าผู้ใดที่ได้เข้าสู่การพำนักของพระเจ้าแล้ว ก็ได้พักงานของตน เหมือนพระเจ้าได้ทรงพักพระราชกิจของพระองค์" (ฮีบรู 4:8-10)

พระเจ้าต้องการให้เราพักในการพักสงบของพระองค์ (สะบาโต) พระเยซูได้นั่งและพัก ไม่ใช่เพราะพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าเท่านั้น แต่เพราะงานของพระองค์สำเร็จแล้ว! 

ลองดู

"ฝ่ายปุโรหิตทุกคนก็ยืนปฏิบัติกิจอยู่ทุกวัน โดยการนำเครื่องบูชาอย่างเดียวกันมาถวายเนืองๆเครื่องบูชานั้นจะลบล้างบาปไม่ได้เลย แต่เมื่อพระคริสต์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องสัตวบูชา เพราะบาปเพียงครั้งเดียวเป็นเครื่องบูชาที่ลบบาปได้ตลอดไป พระองค์ก็เสด็จประทับเบื้องขวาของพระเจ้า" (ฮีบรู 10:11-12)

วอชแมน นี เคยกล่าวไว้ว่า

"ชีวิตคริสเตียนประกอบด้วยการนั่งกับพระคริสต์ เดินกับพระองค์และยืนในพระองค์ เราเริ่มต้นชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราด้วยการพักสงบในงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซูคริสต์ การพักสงบนั้นคือแหล่งแห่งกำลังของเรา เพื่อการดำเนินได้อย่างมั่นคงในโลกใบนี้

คราวหน้าเมื่อคุณรู้ตัวว่ากำลังบอกลูก ๆ ของคุณให้นั่งลงซึ่งอาจเกิดขึ้นหลายครั้งวันนี้ จงเตือนตัวเองด้วยว่าคุณได้นั่งกับพระองค์แล้ว

ผมจะทิ้งท้ายไว้ด้วยคำเดียวกับที่ผมบอกลูก ๆ ของผม ยกเว้นว่าต่างมุมมองไปนิดหน่อย จงนั่งลงเพราะคุณได้นั่งกับพระคริสต์แล้ว!