ปัญหาแท้ที่ยากจะมองเห็นในโรมบทที่ 7


เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้ถูกเปิดเผยในพระธรรมโรมบทที่ 7 ดังนั้นทางแก้ปัญหาซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในแวดวงคริสเตียน ก็ถูกซ่อนอยู่ที่นั่นเช่นกัน ปัญหาที่แท้จริงและบาปที่ซ่อนอยู่ของคริสเตียนก็คือการพยายามของตนเอง "ฉันควร ฉันควรทำให้ดีขึ้นด้วยความพยายามของตนเอง" มันเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ยากเพราะมันดูเหมือนถูกต้องและดี แต่ในความเป็นจริงมันคือหัวใจของปัญหาของเรา ธรรมบัญญัติยังกระตุ้นเร้าความพยายามของเรา
เสมอเพราะเราเชื่อว่าเราสามารถและควรทำมัน เรากำลังไม่ได้เชื่อในพระเจ้าแต่กำลังเชื่อในตัวเอง โคโลสี 1:27 กล่าวว่า "พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้ธรรมิกชนเหล่านั้นรู้ว่า ในหมู่คนต่างชาตินั้นอะไรเป็นความมั่งคั่งแห่งข้อล้ำลึกนี้ คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งศักดิ์ศรี" ข้อล้ำลึกแห่งข่าวประเสริฐก็คือ "พระคริสต์ทรงสถิตในท่าน" แต่เรากลับเชื่อในความสามารถของเรามากกว่าพระคริสต์ที่สถิตในเรา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมบุคคลที่สามแห่งตรีเอกานุภาพ (พระวิญญาณบริสุทธิ์) กลายเป็นบุคคลที่คริสเตียนส่วนใหญ่รู้จักน้อยที่สุด พระเจ้าได้จัดเตรียมชีวิตของพระคริสต์ให้เราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่เรากลับดิ้นรนด้วยความพยายามของเราเองที่จะเป็นได้ดังชีวิตนั้น

อ.เปาโลได้ตักเตือนชาวกาลาเทียอย่างแรงเกี่ยวกับการเคร่งธรรมบัญญัติในคริสตจักรของพวกเขา พวกเขาเริ่มต้นดำเนินชีวิตคริสเตียนด้วยความเชื่อล้วน ๆ แต่ไม่นานก็เพิ่มธรรมบัญญัติมากมายเข้าไป ดังนั้น อ.เปาโลจึงร้องออกมาว่า "โอ ชาวกาลาเทียคนเขลา ใครสะกดดวงจิตของท่านให้เห็นผิดไปได้ทั้งๆที่ภาพการถูกตรึงของพระเยซูคริสต์ปรากฏอยู่ต่อหน้าท่านแล้ว ข้าพเจ้าใคร่รู้ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติหรือ หรือได้รับโดยการฟังด้วยความเชื่อ ท่านเขลาถึงเพียงนั้นทีเดียวหรือ เมื่อท่านเริ่มต้นมาด้วยพระวิญญาณแล้ว บัดนี้ท่านจะจบลงด้วยเนื้อหนังหรือ" (กาลาเทีย 3:1-3) คำเตือนสติอย่างแรงของ อ.เปาโลที่ว่า "ใครสะกดดวงจิตของท่าน" ได้บอกเป็นนัยว่าผีมารกำลังทำงานอยู่ มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่พยายามจะเป็นในสิ่งที่พระเจ้าเท่านั้นที่เป็น

Since the problem is exposed in Romans seven, then the whole solution, which is the missing link in Christianity, is hidden there as well. The real problem and hidden sin of the Christian is self-effort. “I ought to. I should do better by self-effort.” It is very subtle, though, for it seems right and good, yet in truth it is the very heart of our problem. The law continually stirs up self-effort because we believe we can and should do it. We are not believing in God, but in ourselves. Colossians 1:27 says, "To whom God would make known what is the riches of the glory of this mystery among the Gentiles; which is Christ in you, the hope of glory.” The mystery of the Gospel is “Christ in you,” yet we believe more in our own performance than Christ in us. That is why the third person of the Trinity (the Holy Spirit) is the least known to most Christians. We are provided with the life of Christ by the Holy Spirit, yet we strive in our own efforts to be that life.

Paul strongly warned the Galatians against legalism in their church. They began their Christian walk by faith alone, but soon after, added all kinds of laws to live by. Therefore, Paul cried out, “O foolish Galatians, who has bewitched you that you should not obey the truth. This only would I learn of you; Did you receive the Spirit by the works of the law, or the hearing of faith? Are you so foolish? Having begun in the Spirit, are you now made perfect by the flesh”(Galatians 3:1-3)? Paul’s strong warning “Who has bewitched you,” implies that the devil is at work. It is devilish to try to become what only God himself is.
- Sylvia Pearce

Comments