การสอนเรื่อง 'พระคุณ' จะนำคนไปสู่ชีวิตแห่งบาปมากขึ้นหรือ?

สำหรับผู้เชื่อในพระคุณแท้ แรก ๆ ก็อาจสงสัยว่าถ้าพูดแต่ว่าพระเจ้ายกโทษบาปทั้งสิ้นแล้วทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต พระเจ้าไม่ถือโทษเราแล้ว จะไม่เป็นการส่งเสริมให้คนทำบาปหรือ?

ขอตอบเป็นพื้นฐานก่อนเลยก็คือ ผู้เชื่อในพระคุณแท้ จะเชื่อว่า บาปเป็นสิ่งร้ายแรง พวกเราไม่เห็นด้วยทำการทำบาปเด็ดขาด บาปมีค่าจ้างสูงมาก สูงถึงขนาดต้องใช้ชีวิตพระบุตรของพระเจ้าที่เดียวในการจัดการกับบาป
ดังนั้นพระคุณแม้จะเป็นของฟรี แต่ไม่ใช่ของถูก! เป็นสิ่งที่มีราคาแพงมาก

คุณจะคิดอย่างไรว่า หญิงที่ถูกจับได้ว่าล่วงประเวณีที่พวกฟาริสีนำมาจับผิดพระเยซูนั้น จะทำอย่างไรเมื่อสุดท้ายพระเยซูทำให้เธอไม่ต้องถูกหินขว้างตาย แล้วพระองค์ยังบอกว่าพระองค์ก็ไม่เอาโทษเธอแล้วเหมือนกัน? คุณคิดว่าเธอจะออกไป แล้วร้องไชโย บอกว่าเธอสามารถไปทำบาปล่วงประเวณีได้ต่ออีกแล้ว และก็รีบวิ่งไปหาชายชู้ของเธอไหม?
ไม่มีทาง ใช่ไหม? เธอจะรู้สึกอย่างไร? ก็จะรู้สึกซาบซึ้งในความรักของพระเยซูน่ะสิ และก็หลงรักพระเยซูมากขึ้นต่างหาก
คุณคิดว่าคุณหรือคนอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรเมื่อพบพระคุณของพระเยซู?

ความจริงก็คือ ยิ่งเราซาบซึ้งในพระคุณพระเจ้า เราจะยิ่งรักพระเจ้า และจะยิ่งห่างไกลจากบาป

ผมได้แปลบทความหนึ่งของ Ps. Steve McVey มาให้อ่านเพิ่มเติมนะครับ
หวังว่าคงทำให้เข้าใจเรื่องนี้ได้มากขึ้น

Does Teaching Grace Lead To a Careless Lifestyle?
by Steve McVey

บางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อยกับการต้องตอบคำถามของผู้เคร่งศาสนาบางคนที่กลัวมากว่าคำสอนเรื่องพระคุณแท้ที่บริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนนี้อาจนำให้คนคิดว่าการทำบาปเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ สิ่งที่แปลกก็คือเมื่อผมถามพวกเขาว่าคำสอนแบบนี้จะทำให้พวกเขาต้องการทำอย่างนั้นไหม พวกเขาจะตอบเสมอว่าไม่ พวกเขามิได้กังวลเกี่ยวกับตัวเขาเองแต่เป็นคริสเตียนที่อ่อนแอและน่าสงสารอื่น ๆ ต่างหากที่เขากังวลว่าจะเข้าใจผิดและอาจถูกทำให้หลงไป ท้ายที่สุดพวกเขาไม่ได้เติบโตพอที่จะรู้วิธีการจัดการกับความจริงนี้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะรักษาความสอนเกี่ยวกับพระคุณให้สมดุลด้วยการใส่คำเตือนเกี่ยวกับอันตรายและความเลวร้ายของความบาปเข้าไปด้วย

นี่คืออาการคล้าย ๆ กับคำที่ว่า "ชี้โพรงให้กระรอก" บางคนกลัวว่าถ้าคุณรับเอาพระคุณของพระเจ้าเข้ามาจริง ๆ แล้วมันจะส่งผลให้คุณออกไปและดำเนินชีวิตแห่งความบาป การให้เหตุผลของพวกเขาก็คือว่าถ้าคุณบอกประชาชนว่าบาปของพวกเขาได้ถูกยกโทษแล้วและพวกเขาอยู่ภายใต้พระคุณของพระเจ้า พวกเขาจะไม่ได้ถูกชักนำให้ดำเนินชีวิตอย่างพระเจ้า พวกเขามีคำถามว่าอะไรจะเป็นสิ่งป้องกันไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นออกไปและประพฤติในสิ่งผิด
พวกเขากำลังประเมินการทรงสถิตของพระคริสต์ที่อยู่ภายในเราต่ำเกินไป! พวกเขาพลาดไปว่าจริง ๆ แล้วคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ต่างหากผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในเรา พระองค์สามารถเป็นที่ไว้วางใจได้! พระองค์สามารถที่จะนำคนไปสู่ความประพฤติที่ชอบธรรมได้โดยปราศจากคำเตือนใด ๆ ของเรา

พระคุณของพระเจ้าไม่ใช่ใบอนุญาติให้ทำบาป เหล่าผู้ซึ่งบอกว่าคำสอนเรื่องพระคุณแท้จะนำไปอย่างนั้นกำลังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ไม่สมบูรณ์ของพวกเขาในเรื่องนี้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาพูดกับ อ.เปาโลด้วย ความจริงก็เป็นสิ่งที่พวกเขาพูดกับใครก็ตามและทุกคนที่มีความกล้าที่จะเทศนาพระคุณที่ปราศจากการเติมด้วยการเคร่งศาสนาเข้าไปสักหน่อย

พระคุณของพระเจ้าคือกำลังจากสวรรค์โดยชีวิตของพระคริสต์ในเรา สำหรับเราที่จะเป็นได้ในทุกสิ่งที่เราถูกทรงเรียกให้เป็น พระคุณจะไม่ทำให้คุณออกไปและทำบาป ในทางตรงกันข้าม พระคุณจะให้กำลังคุณ ให้คุณทำได้ และกระตุ้นคุณให้ดำเนินชีวิตอย่างพระเจ้า ในทิตัส 2:11-12 บอกว่า "เพราะว่าพระคุณของพระเจ้าได้ปรากฏแล้ว เพื่อช่วยคนทั้งปวงให้รอด สอนให้เราละทิ้งความอธรรมและโลกียตัณหา และดำเนินชีวิตในยุคนี้อย่างมีสติสัมปชัญญะ สัตย์ซื่อสุจริตและตามคลองธรรม"

พระคัมภีร์บอกว่าพระคุณของพระเจ้าสอนเรา นำเรา อะไรคือหัวใจของการสอนนั้น? ก็คือสอนให้เราละทิ้งความอธรรม และสอนถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ สัตย์ซื่อสุจริตและตามคลองธรรมในยุคนี้ ชัดเจนครับว่า อ.เปาโลไม่ได้กลัวว่าพระคุณนั้นจะเป็นเหตุให้ชีวิตคนไร้สติ อ.เปาโลกลับเห็นว่าพระคุณเป็นเหมือนยาถอนพิษสำหรับพฤติกรรมอธรรมทั้งหลายด้วยซ้ำ

ให้เรามาปูพื้นฐานความคิดของเราในสิ่งที่พระคัมภีร์พูดและไม่ใช่บนความกลัวที่ไร้เหตุผลของเราที่ว่าบางคนอาจละเมิดพระคุณถ้าพวกเขาได้รับการสอนถึงสิ่งนี้ ให้เราพักสงบอย่างมั่นใจได้ว่าพระคุณของพระเยซูคริสต์เจ้าของเราจะไม่ได้กลายเป็นแรงจูงใจให้เราทำบาปแน่ พระคุณของพระองค์จะเร้าใจเรา สอนเราและกระตุ้นเราให้ดำเนินในแนวทางที่เหมาะสมกับที่คุณเป็นในพระองค์!
ในการพยายามที่จะทำให้จิตใจของผู้เคร่งศาสนาสงบลง ผมคงไม่ทำด้วยการเติมข่าวประเสริฐด้วยการเตือนคนถึงวิธีการหลีกเลี่ยงบาป
ข่าวประเสริฐก็คือข่าวดี และไม่ใช่สิ่งอื่นเลย นอกจากข่าวดีล้วน ๆ เมื่อคนเข้าใจสิ่งนี้แล้ว ความประพฤติทั้งหลายก็จะดูแลตัวมันเอง

Comments