'I Become' vs. 'I Am'
กรอบความคิดแบบ 'ฉันจะได้เป็น' กับ 'ฉันเป็น'
อาดัมถูกสร้างมาในพระฉายพระเจ้า เขา 'เป็น' เหมือนพระเจ้าอยู่แล้วตั้งแต่แรก
แต่เขาถูกหลอกให้คิดว่าเขา 'จะได้เป็น' เหมือนพระเจ้าถ้าเขา 'ทำ' บางอย่าง (กินผลไม้นั้น)
พระเยซูทรงถูกทดลองให้ 'ทำ' บางอย่างเช่นกัน เพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ 'เป็น' บุตรพระเจ้า
แต่พระองค์มิได้ล้มเหลว พระองค์มิได้ 'ทำ' ตามเพื่อ 'จะได้เป็น'
พระองค์ยังทรงมั่นใจว่าพระองค์ 'เป็น' ในสิ่งที่พระบิดาบอกว่าพระองค์เป็นอยู่แล้ว
คือ 'เป็น' บุตรที่รักและเป็นที่ชอบพระทัย
แล้วเราล่ะ.. เหล่าผู้เชื่อ...
ถ้าพระเจ้าบอกเราแล้วว่า ในพระคริสต์
เราคือผู้ชอบธรรม (2คร.5:21)
เราบริสุทธิ์แล้ว (1คร.6:11)
เราสมบูรณ์แล้ว (คส.2:10)
เราคือบุตรพระเจ้า (รม. 8:16)
เราคือผู้รับมรดก (รม.8:17)
เราคือผู้ชนะ (รม.8:37)
เราเป็นที่รักของพระเจ้า (รม.8:37)
เราจะว่าอย่างไร?
เราจะยังพยายาม 'ทำ' อะไรเพื่อ 'จะได้เป็น' ในสิ่งเหล่านั้นอีกหรือ?
อย่าหลงเชื่อในสิ่งที่มาบอกเราว่าเรายังต้อง 'ทำ' บางอย่างเพื่อจะได้ 'เป็น'
แต่จงเชื่อในคำตรัสของพระเจ้าว่า 'เราเป็น' ในสิ่งที่พระเจ้าบอกว่าเราเป็นแล้ว
และดำเนินชีวิตออกมาจากสิ่งที่ 'เราเป็น' นั้น...
อาดัมถูกสร้างมาในพระฉายพระเจ้า เขา 'เป็น' เหมือนพระเจ้าอยู่แล้วตั้งแต่แรก
แต่เขาถูกหลอกให้คิดว่าเขา 'จะได้เป็น' เหมือนพระเจ้าถ้าเขา 'ทำ' บางอย่าง (กินผลไม้นั้น)
พระเยซูทรงถูกทดลองให้ 'ทำ' บางอย่างเช่นกัน เพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ 'เป็น' บุตรพระเจ้า
แต่พระองค์มิได้ล้มเหลว พระองค์มิได้ 'ทำ' ตามเพื่อ 'จะได้เป็น'
พระองค์ยังทรงมั่นใจว่าพระองค์ 'เป็น' ในสิ่งที่พระบิดาบอกว่าพระองค์เป็นอยู่แล้ว
คือ 'เป็น' บุตรที่รักและเป็นที่ชอบพระทัย
แล้วเราล่ะ.. เหล่าผู้เชื่อ...
ถ้าพระเจ้าบอกเราแล้วว่า ในพระคริสต์
เราคือผู้ชอบธรรม (2คร.5:21)
เราบริสุทธิ์แล้ว (1คร.6:11)
เราสมบูรณ์แล้ว (คส.2:10)
เราคือบุตรพระเจ้า (รม. 8:16)
เราคือผู้รับมรดก (รม.8:17)
เราคือผู้ชนะ (รม.8:37)
เราเป็นที่รักของพระเจ้า (รม.8:37)
เราจะว่าอย่างไร?
เราจะยังพยายาม 'ทำ' อะไรเพื่อ 'จะได้เป็น' ในสิ่งเหล่านั้นอีกหรือ?
อย่าหลงเชื่อในสิ่งที่มาบอกเราว่าเรายังต้อง 'ทำ' บางอย่างเพื่อจะได้ 'เป็น'
แต่จงเชื่อในคำตรัสของพระเจ้าว่า 'เราเป็น' ในสิ่งที่พระเจ้าบอกว่าเราเป็นแล้ว
และดำเนินชีวิตออกมาจากสิ่งที่ 'เราเป็น' นั้น...
Comments
Post a Comment