จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น
โดย เจสัน พาวเวอรส์
มัทธิว 5:17-18 "อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะทำลายพระราชบัญญัติหรือคำของศาสดาพยากรณ์เสีย เรามิได้มาเพื่อจะทำลาย แต่มาเพื่อจะให้สำเร็จ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถึงฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรหนึ่งหรือจุดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากพระราชบัญญัติ จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น"
เมื่อผมได้อ่านพระธรรมข้อนี้เมื่อวาน พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เปิดตาให้ผมได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พระธรรมข้อนี้มักถูกใช้เพื่อสนับสนุนว่าธรรมบัญญัติยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของผู้เชื่อ ผมต้องฝืนอยู่เรื่อย ๆ ให้ยอมรับข้อนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าพระคริสต์ไม่ได้ต้องการมาล้มเลิกธรรมบัญญัติ แต่เมื่อใดที่คุณยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้สอนคุณ คุณจะเห็นบางสิ่งที่ล้ำลึกในความหมายที่กำลังถูกพูดถึงจริง ๆ จากข้อนี้ ข้อสังเกตุแรกก็คือพระคริสต์กำลังพูดกับชาวยิวผู้ซึ่งพระองค์ประทานธรรมบัญญัติให้ นั่นคือกุญแจ สิ่งที่กำลังรบกวนความคิดของชาวยิวก็คือในสายตาของพวกเขาพระคริสต์กำลังละเมิดธรรมบัญญัติด้วยการงานของพระองค์อยู่ และนี่คือความหมายที่ลึกซึ้ง พระองค์พูดกับพวกเขา "อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ" สำหรับพวกยิวพระองค์ดูเหมือนกำลังสอนและดำเนินชีวิตต่อต้านธรรมบัญญัติ แต่พวกเขากำลังเข้าใจผิดอย่างมาก สังเกตุสิ่งที่พระองค์พูดต่อ "แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ" นั่นคือกุญแจสำหรับเหตุผลมากมาย พระคริสต์ในช่วงเวลาและการรับใช้ของพระองค์บนโลกนี้ ไม่เคยล้มล้างธรรมบัญญัติหรือคำของผู้เผยพระวจนะ พระองค์มาเพื่อทำให้สมบูรณ์เท่านั้น คำว่าทำให้สมบูรณ์หมายความว่าทำให้พอใจ (ตามข้อเรียกร้อง กฎเกณฑ์ต่าง ๆ) คราวนี้นี่คือที่ซึ่งผู้ที่มีจิตใจเคร่งในกฎเกณฑ์พยายามจะสถาปนาธรรมบัญญัติขึ้นมาอีก "เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถึงฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรหนึ่งหรือจุดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากพระราชบัญญัติ" ตรงนี้คือที่เรามักจะถูกบอกว่า "เห็นไหม ไม่มีสักสิ่งที่จะหายไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป จนกว่าโลกจะสิ้นสุด" เอาละนี่คือสิ่งที่เราควรตอบสนองต่อพวกเขา เหมือนดังที่พระคริสต์ทำ สังเกตุว่าพระองค์พูดว่า "จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น" หลังจากที่ผมอ่านตรงนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสกับผมว่า "เจสัน เราได้ทำมันสำเร็จทั้งสิ้นแล้ว!" ในชั่วขณะนั้นความรู้สึกแห่งอิสรภาพได้ถาถมเข้าใส่ผมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันได้กระจ่างแจ้งขึ้นในใจผม "สำเร็จแล้ว!!" พระองค์ได้ตรัสกับผมว่า "เมื่อครั้งที่เราได้ตรัสสิ่งนั้นกับพวกเขา ในเวลานั้นเรายังไม่ได้ทำให้สมบูรณ์ ยังไม่ได้ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จทั้งสิ้น เรายังไม่ได้ถูกตรึง เราได้บอกพวกเขา ไม่จนกว่าเราจะทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จ แม้ฟ้าและดินจะล่วงไป เราไม่มีทางมาเพื่อเลิกล้างธรรมบัญญัติ เรามาเพื่อทำให้มันสำเร็จทั้งสิ้น และเราได้ทำแล้ว!" ตรงนี้คืออิสรภาพแท้ที่พระคริสต์นำมาให้คุณและผม เรามิได้อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติอีกต่อไป แต่อยู่ภายใต้พระคริสต์!!!! ผมเป็นอิสระที่จะรับใช้พระบิดาผู้ซึ่งเต็มด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไขสำหรับผม โดยปราศจากความจำเป็นที่ต้องทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก การยอมรับ การยกโทษ ความโปรดปรานและพระพรอื่น ๆ จากพระองค์ ผมรับมรดกทั้งสิ้นของพระคริสต์ทันทีที่พระองค์เข้ามาในชีวิตของผม!!!! และคุณก็เช่นกันที่ได้รับพระองค์โดยความเชื่อ!!!! ผมไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเพื่อให้พระองค์รักอีกต่อไป ผมเป็นอิสระอย่างแท้จริงจากธรรมบัญญัติโดยพระคริสต์ที่จะทำในสิ่งที่ธรรมบัญญัติไม่เคยทำได้คือ....รัก..
มัทธิว 5:17-18 "อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะทำลายพระราชบัญญัติหรือคำของศาสดาพยากรณ์เสีย เรามิได้มาเพื่อจะทำลาย แต่มาเพื่อจะให้สำเร็จ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถึงฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรหนึ่งหรือจุดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากพระราชบัญญัติ จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น"
เมื่อผมได้อ่านพระธรรมข้อนี้เมื่อวาน พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เปิดตาให้ผมได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พระธรรมข้อนี้มักถูกใช้เพื่อสนับสนุนว่าธรรมบัญญัติยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตของผู้เชื่อ ผมต้องฝืนอยู่เรื่อย ๆ ให้ยอมรับข้อนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าพระคริสต์ไม่ได้ต้องการมาล้มเลิกธรรมบัญญัติ แต่เมื่อใดที่คุณยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้สอนคุณ คุณจะเห็นบางสิ่งที่ล้ำลึกในความหมายที่กำลังถูกพูดถึงจริง ๆ จากข้อนี้ ข้อสังเกตุแรกก็คือพระคริสต์กำลังพูดกับชาวยิวผู้ซึ่งพระองค์ประทานธรรมบัญญัติให้ นั่นคือกุญแจ สิ่งที่กำลังรบกวนความคิดของชาวยิวก็คือในสายตาของพวกเขาพระคริสต์กำลังละเมิดธรรมบัญญัติด้วยการงานของพระองค์อยู่ และนี่คือความหมายที่ลึกซึ้ง พระองค์พูดกับพวกเขา "อย่าคิดว่าเรามาเลิกล้างธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะ" สำหรับพวกยิวพระองค์ดูเหมือนกำลังสอนและดำเนินชีวิตต่อต้านธรรมบัญญัติ แต่พวกเขากำลังเข้าใจผิดอย่างมาก สังเกตุสิ่งที่พระองค์พูดต่อ "แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ" นั่นคือกุญแจสำหรับเหตุผลมากมาย พระคริสต์ในช่วงเวลาและการรับใช้ของพระองค์บนโลกนี้ ไม่เคยล้มล้างธรรมบัญญัติหรือคำของผู้เผยพระวจนะ พระองค์มาเพื่อทำให้สมบูรณ์เท่านั้น คำว่าทำให้สมบูรณ์หมายความว่าทำให้พอใจ (ตามข้อเรียกร้อง กฎเกณฑ์ต่าง ๆ) คราวนี้นี่คือที่ซึ่งผู้ที่มีจิตใจเคร่งในกฎเกณฑ์พยายามจะสถาปนาธรรมบัญญัติขึ้นมาอีก "เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถึงฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรหนึ่งหรือจุดๆหนึ่งก็จะไม่สูญไปจากพระราชบัญญัติ" ตรงนี้คือที่เรามักจะถูกบอกว่า "เห็นไหม ไม่มีสักสิ่งที่จะหายไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป จนกว่าโลกจะสิ้นสุด" เอาละนี่คือสิ่งที่เราควรตอบสนองต่อพวกเขา เหมือนดังที่พระคริสต์ทำ สังเกตุว่าพระองค์พูดว่า "จนกว่าจะสำเร็จทั้งสิ้น" หลังจากที่ผมอ่านตรงนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสกับผมว่า "เจสัน เราได้ทำมันสำเร็จทั้งสิ้นแล้ว!" ในชั่วขณะนั้นความรู้สึกแห่งอิสรภาพได้ถาถมเข้าใส่ผมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันได้กระจ่างแจ้งขึ้นในใจผม "สำเร็จแล้ว!!" พระองค์ได้ตรัสกับผมว่า "เมื่อครั้งที่เราได้ตรัสสิ่งนั้นกับพวกเขา ในเวลานั้นเรายังไม่ได้ทำให้สมบูรณ์ ยังไม่ได้ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จทั้งสิ้น เรายังไม่ได้ถูกตรึง เราได้บอกพวกเขา ไม่จนกว่าเราจะทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จ แม้ฟ้าและดินจะล่วงไป เราไม่มีทางมาเพื่อเลิกล้างธรรมบัญญัติ เรามาเพื่อทำให้มันสำเร็จทั้งสิ้น และเราได้ทำแล้ว!" ตรงนี้คืออิสรภาพแท้ที่พระคริสต์นำมาให้คุณและผม เรามิได้อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติอีกต่อไป แต่อยู่ภายใต้พระคริสต์!!!! ผมเป็นอิสระที่จะรับใช้พระบิดาผู้ซึ่งเต็มด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไขสำหรับผม โดยปราศจากความจำเป็นที่ต้องทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก การยอมรับ การยกโทษ ความโปรดปรานและพระพรอื่น ๆ จากพระองค์ ผมรับมรดกทั้งสิ้นของพระคริสต์ทันทีที่พระองค์เข้ามาในชีวิตของผม!!!! และคุณก็เช่นกันที่ได้รับพระองค์โดยความเชื่อ!!!! ผมไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเพื่อให้พระองค์รักอีกต่อไป ผมเป็นอิสระอย่างแท้จริงจากธรรมบัญญัติโดยพระคริสต์ที่จะทำในสิ่งที่ธรรมบัญญัติไม่เคยทำได้คือ....รัก..
Comments
Post a Comment