จิตสำนึกแห่งความบาป (Sin Consciousness)
ขอนำบทความจาก link นี้ http://gracewalkministries.blogspot.com ... sness.html มาแปลให้อ่านกันเพิ่มเติมครับ
จิตสำนึกแห่งความบาป (Sin Consciousness)
ปัจจุบันมีความหลงใหลกับการจัดการกับบาปในคริสตจักรสมัยใหม่นี้ ซึ่งผมคิดว่าสามารถจัดได้ว่าเข้าข่ายเป็นการ 'นับถือรูปเคารพ' คริสเตียนบางคนพูดและคิดเกี่ยวกับความบาปมากกว่าคิดถึงพระเยซูคริสต์เองด้วยซ้ำ แต่บางคนอาจถามว่า "แล้วเราไม่ต้องให้ความสนใจกับการเอาชนะบาปหรือ?"
พระคัมภีร์บอกว่าพระเยซูได้มาและจัดการกับบาปด้วยเครื่องบูชาคือพระองค์เองแล้ว นั่นคือความจริงที่เราจำเป็นต้องยึดมั่นไว้ในชีวิต บาปไม่สามารถข่มขู่พระเจ้าได้ พระองค์ได้ปราบมันแล้ว ครั้งเดียวพอ บนไม้กางเขน ด้งนั้นทำไมเราจึงยังใช้เวลาของเราในการให้บาปเป็นสิ่งที่เราให้ความสนใจอีก? เมื่อพระองค์นำเอาบาปทั้งสิ้นของเราไปไว้ที่พระองค์เองและตรัสว่า "สำเร็จแล้ว" นั่นคือสิ่งที่พระองค์หมายถึงจริง ๆ เดี๋ยวนี้เราจึงควรจดจ่อที่พระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ตัวเราเอง ไม่ใช่ความบาปของเรา เราต้องจดจ่อที่พระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์บอกว่าถ้าเราจดจ่อกับสิ่งซึ่งเป็นของเนื้อหนัง เราก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งที่เป็นของเนื้อหนัง ดังนั้นถ้าเราต้องการจะดำเนินในชัยชนะเหนือความบาป เราต้องไม่ทำอย่างนั้นโดยการจดจ่ออยู่ที่การทดลองให้ทำบาป เราจ้องจดจ่อที่พระเยซูแทน
ในโคโลสีบทที่ 3 อ.เปาโลบอกว่า "ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ คือประทับข้างขวาของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก เพราะว่าท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า"
ขณะที่เราจดจ่ออยู่ที่พระเยซูคริสต์ เราจะพบว่าแรงดึงดูดของการล่อลวงนั้นจะเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ พระคัมภีร์บอกว่าพระเยซูคริสต์เป็นกำลังของเรา ผมคิดถึงเพลงเก่าเพลงหนึ่งที่ร้องมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นว่า "มองพระพักตร์ องค์พระเยซู กลับมาชมพระพักตร์ อัศจรรย์ กลับมาหา พระองค์ ผู้ทรงสร้าง สรรพสิ่ง และอาศัย อยู่ใน พระคุณ พระองค์" (“Turn your eyes upon Jesus, look full in his wonderful face, and the things of earth will grow strangely dim, in the light of his glory and grace.”)
เครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบสำหรับบาปได้ถูกมอบไว้แล้ว และพระคัมภีร์บอกว่าด้วยเพราะสิ่งนั้นเราจึงสามารถมีชีวิตอยู่โดยปราศจากจิตสำนึกแห่งความบาปได้ (Sin Conscious) [ฮบ 10:1-2] เดี๋ยวนี้เรามีชีวิตอยู่ด้วยจิตสำนึกแห่งพระคริสต์ (Christ Conscious) ผู้ทรงเป็นความชอบธรรมของเรา
จิตสำนึกแห่งความบาป (Sin Consciousness)
ปัจจุบันมีความหลงใหลกับการจัดการกับบาปในคริสตจักรสมัยใหม่นี้ ซึ่งผมคิดว่าสามารถจัดได้ว่าเข้าข่ายเป็นการ 'นับถือรูปเคารพ' คริสเตียนบางคนพูดและคิดเกี่ยวกับความบาปมากกว่าคิดถึงพระเยซูคริสต์เองด้วยซ้ำ แต่บางคนอาจถามว่า "แล้วเราไม่ต้องให้ความสนใจกับการเอาชนะบาปหรือ?"
พระคัมภีร์บอกว่าพระเยซูได้มาและจัดการกับบาปด้วยเครื่องบูชาคือพระองค์เองแล้ว นั่นคือความจริงที่เราจำเป็นต้องยึดมั่นไว้ในชีวิต บาปไม่สามารถข่มขู่พระเจ้าได้ พระองค์ได้ปราบมันแล้ว ครั้งเดียวพอ บนไม้กางเขน ด้งนั้นทำไมเราจึงยังใช้เวลาของเราในการให้บาปเป็นสิ่งที่เราให้ความสนใจอีก? เมื่อพระองค์นำเอาบาปทั้งสิ้นของเราไปไว้ที่พระองค์เองและตรัสว่า "สำเร็จแล้ว" นั่นคือสิ่งที่พระองค์หมายถึงจริง ๆ เดี๋ยวนี้เราจึงควรจดจ่อที่พระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ตัวเราเอง ไม่ใช่ความบาปของเรา เราต้องจดจ่อที่พระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์บอกว่าถ้าเราจดจ่อกับสิ่งซึ่งเป็นของเนื้อหนัง เราก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งที่เป็นของเนื้อหนัง ดังนั้นถ้าเราต้องการจะดำเนินในชัยชนะเหนือความบาป เราต้องไม่ทำอย่างนั้นโดยการจดจ่ออยู่ที่การทดลองให้ทำบาป เราจ้องจดจ่อที่พระเยซูแทน
ในโคโลสีบทที่ 3 อ.เปาโลบอกว่า "ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ คือประทับข้างขวาของพระเจ้า จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก เพราะว่าท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า"
ขณะที่เราจดจ่ออยู่ที่พระเยซูคริสต์ เราจะพบว่าแรงดึงดูดของการล่อลวงนั้นจะเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ พระคัมภีร์บอกว่าพระเยซูคริสต์เป็นกำลังของเรา ผมคิดถึงเพลงเก่าเพลงหนึ่งที่ร้องมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นว่า "มองพระพักตร์ องค์พระเยซู กลับมาชมพระพักตร์ อัศจรรย์ กลับมาหา พระองค์ ผู้ทรงสร้าง สรรพสิ่ง และอาศัย อยู่ใน พระคุณ พระองค์" (“Turn your eyes upon Jesus, look full in his wonderful face, and the things of earth will grow strangely dim, in the light of his glory and grace.”)
เครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบสำหรับบาปได้ถูกมอบไว้แล้ว และพระคัมภีร์บอกว่าด้วยเพราะสิ่งนั้นเราจึงสามารถมีชีวิตอยู่โดยปราศจากจิตสำนึกแห่งความบาปได้ (Sin Conscious) [ฮบ 10:1-2] เดี๋ยวนี้เรามีชีวิตอยู่ด้วยจิตสำนึกแห่งพระคริสต์ (Christ Conscious) ผู้ทรงเป็นความชอบธรรมของเรา
Comments
Post a Comment