คุณคือสาวกที่พระเยซูทรงรัก

ถ้าถามว่าความรักคืออะไร หลายคนคงจะนึกถึง 1คร.13 แต่นั่นไม่ใช่นิยามของความรัก แต่เป็นคุณลักษณะ (Characteristics) ของความรัก นิยามของความรักปรากฎอยู่ใน

1 ยอห์น [4:10] ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา

นั่นคือสิ่งที่ยอห์นสาวกที่พระเยซูทรงรัก ตระหนัก

คุณเคยถูกสอนหรือไม่ว่าสาวกที่พระเยซูคริสต์รักมากที่สุดคือยอห์น ความจริงแล้วถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าวลีที่ว่า ‘สาวกที่พระเยซูทรงรัก’ นั้นปรากฎอยู่ในแค่พระกิตติคุณที่ยอห์นเป็นผู้เขียนเองเท่านั้น ! ความจริงแล้วยอห์นกำลังตอบสนอง (หรือ practice) ต่อความรักของพระเยซูมากกว่า

อยากเปรียบเทียบให้เห็นสาวก 2 คนคือ เปโตร ผู้ที่มั่นใจในความรักของตนที่มีต่อพระเยซู และยอห์นผู้ที่มั่นใจในความรักของพระเยซูที่มีต่อตน เปโตรผู้ที่บอกกับพระเยซูว่าพร้อมจะตายกับพระองค์ ในลูกา [22:33] ฝ่ายท่านจึงทูลพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์พร้อมแล้วที่จะไปกับพระองค์ ถึงจะต้องติดคุกหรือถึงความตายก็ดี" ในวันเดียวกันนั้นเองที่เปโตรปฏิเสธพระเยซูถึง 3 ครั้ง ในขณะที่ยอห์นผู้มั่นใจในความรักของพระเยซู กลับอยู่ใกล้พระองค์ที่โคนกางเขนเพื่อปรนนิบัติพระเยซู ยอห์น [19:26] "เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์ จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า "หญิงเอ๋ย จงดูบุตรของท่านเถิด" 27แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า "จงดูมารดาของท่านเถิด" ตั้งแต่เวลานั้นมาสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตน" นอกจากนั้นยอห์นยังเป็นผู้ที่พระเจ้าเปิดเผยสิ่งต่าง ๆ อีกมากมาย (ผู้เขียนวิวรณ์)

การที่เรารู้ว่าพระเจ้าทรงรักมนุษย์ทุกคนนั้น ไม่เพียงพอ เราต้องรู้ ตระหนัก และมั่นใจว่าพระองค์ทรงรักเราเป็นการส่วนตัวด้วย เปรียบเหมือนกับเมื่อเราเอาแผ่นกระดาษสักแผ่นมากลางแดด แสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถทำให้กระดาษไหม้ได้ แต่เมื่อเราเอาแว่นขยายมาโฟกัสแสงลงบนกระดาษนั้น กระดาษจึงจะไหม้ไฟได้ เช่นเดียวกัน การรู้ว่าพระเจ้ารักมนุษย์ทุกคน ไม่เพียงพอ เราต้องรู้และมั่นใจว่าพระเจ้ารักเราเป็นการส่วนตัวจริง ๆ ความรักนั้นจึงจะทำให้เกิดผลอย่างอัศจรรย์ได้ ดังเช่นเปาโลที่ไม่ได้บอกว่า ‘พระเจ้าทรงรักทุกคน’ แต่บอกว่า ‘พระเจ้าทรงรักข้าพเจ้า’ ใน กาลาเทีย [2:20] ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า เปาโลจึงเกิดผลอย่างมากมาย

พี่น้องสิ่งดีต่าง ๆ จะเกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเรา เมื่อเรารู้และมั่นใจในความรักของพระเยซูที่มีต่อเราเป็นการส่วนตัวจริง ๆ
โรม [8:32] พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลาย ด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ

ให้คุณใส่ชื่อของคุณเองลงไปดีไหมครับและบอกกับตัวเองว่า ‘[ชื่อคุณ] สาวกที่พระเยซูทรงรัก’

พระเจ้าอวยพรครับ
จาก สาวกที่พระเยซูทรงรัก

Comments