จงตายต่อบาปหนเดียว
"..ท่านทั้งหลายจงถือว่าท่านได้ตายต่อบาป.." (โรม 6:11)
พระธรรมข้อนี้คริสเตียนทุกคนรู้จักกันดี คือที่เราในฐานะคริสเตียนต้องถือว่าเราได้ตายต่อบาปแล้ว แต่หากดูจากบริบทของพระธรรมนี้ซึ่งคือในโรม 6:10-11 "ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายต่อบาปหนเดียวเป็นพอ แต่ซึ่งพระองค์ทรงชีวิตอยู่นั้น พระองค์ทรงชีวิตสนิทกับพระเจ้า เหมือนกันเช่นนั้นแหละ ท่านทั้งหลายจงถือว่าท่านได้ตายต่อบาป และมีชีวิตสนิทกับพระเจ้าในพระเยซูคริสต์"
เราจะเห็นวลีที่ว่า "เหมือนกันเช่นนั้นแหละ" อยู่ด้วย หมายความว่าพระเจ้าต้องการให้เราถือว่าเราตายต่อบาป "เหมือน" ดังที่พระเยซูได้ตายต่อบาป คราวนี้พอเราดูต่อไปเราจะเห็นว่าพระคัมภีร์บอกว่า "ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายต่อบาปหนเดียวเป็นพอ" กล่าวคือมีจำนวนครั้งมาเกี่ยวด้วย ซึ่งก็คือครั้งเดียวพอ! ดังนั้นที่ถูกเราจึงต้องถือว่าเราตายต่อบาปแล้วครั้งเดียวพอด้วยเช่นกัน!
(แต่หากบางท่านบอกว่า อ.เปาโลเคยบอกว่า "ข้าพเจ้าตายทุกวัน" ใน 1 คร. 15:31 จริง ๆ แล้วในบริบทที่ อ.เปาโลพูดนั้น ไม่ได้หมายถืงการตายต่อบาป แต่หมายถึงว่า อ.เปาโลถูกข่มเหงทุกวัน)
พระธรรมข้อนี้คริสเตียนทุกคนรู้จักกันดี คือที่เราในฐานะคริสเตียนต้องถือว่าเราได้ตายต่อบาปแล้ว แต่หากดูจากบริบทของพระธรรมนี้ซึ่งคือในโรม 6:10-11 "ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายต่อบาปหนเดียวเป็นพอ แต่ซึ่งพระองค์ทรงชีวิตอยู่นั้น พระองค์ทรงชีวิตสนิทกับพระเจ้า เหมือนกันเช่นนั้นแหละ ท่านทั้งหลายจงถือว่าท่านได้ตายต่อบาป และมีชีวิตสนิทกับพระเจ้าในพระเยซูคริสต์"
เราจะเห็นวลีที่ว่า "เหมือนกันเช่นนั้นแหละ" อยู่ด้วย หมายความว่าพระเจ้าต้องการให้เราถือว่าเราตายต่อบาป "เหมือน" ดังที่พระเยซูได้ตายต่อบาป คราวนี้พอเราดูต่อไปเราจะเห็นว่าพระคัมภีร์บอกว่า "ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายต่อบาปหนเดียวเป็นพอ" กล่าวคือมีจำนวนครั้งมาเกี่ยวด้วย ซึ่งก็คือครั้งเดียวพอ! ดังนั้นที่ถูกเราจึงต้องถือว่าเราตายต่อบาปแล้วครั้งเดียวพอด้วยเช่นกัน!
(แต่หากบางท่านบอกว่า อ.เปาโลเคยบอกว่า "ข้าพเจ้าตายทุกวัน" ใน 1 คร. 15:31 จริง ๆ แล้วในบริบทที่ อ.เปาโลพูดนั้น ไม่ได้หมายถืงการตายต่อบาป แต่หมายถึงว่า อ.เปาโลถูกข่มเหงทุกวัน)
Comments
Post a Comment