หนึ่งยอห์นหนึ่งข้อเก้า - ตอนที่หนึ่ง (One John One Nine - Part One)

(by Joel Brueseke แปลจาก http://blog.graceroots.org/2010/03/one-john-one-nine-part-one.html)

หนึ่งยอห์นหนึ่งข้อเก้า - ตอนที่หนึ่ง

"ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น" 1 ยอห์น 1:9

ภายใต้พันธสัญญาเดิม สิ่งดีที่สุดที่คนสามารถหวังได้ก็คือการที่บาปของพวกเขาถูกปกคลุมชั่วคราว
ผ่านทางพิธีกรรมหลากหลายและสัตวบูชา พวกเขาสามารถได้รับการชำระอย่างเป็นพิธี
แต่ด้วยเพียงเลือดวัวและแพะ บาปของพวกเขาไม่สามารถถูกขจัดออกไปได้
ความจริง ผ่านทางเครื่องบูชาเหล่านั้น เป็นเพียงการเตือนให้สำนึกในบาปเท่านั้น (ฮบ.10:3-4)
เปรียบเทียบสิ่งนี้กับ "จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผู้ทรงรับความผิดบาปของโลกไปเสีย" (ยน.1:29)
มันน่าสนใจสำหรับผมที่คำกรีกเดียวกันที่ใช้ใน ฮีบรู 10:3 ที่พูดว่าเลือดวัวและแพะนำมาซึ่งการเตือน ("anamnēsis") ให้สำนึกในบาปนั้นเป็นคำกรีกเดียวกันที่ถูกใช้โดยพระเยซูในเหตุการณ์อาหารมื้อสุดท้ายในลูกา 22:19
และนั่นคือที่อ.เปาโลได้กล่าวด้วยเช่นกันเมื่อเขาย้ำคำพูดของพระเยซู "นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา" และ "ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา เมื่อท่านดื่มจากถ้วยนี้เวลาใด จงดื่มเป็นที่ระลึกถึงเรา"

เห็นความต่างไหม? เลือดของวัวและแพะนำมาซึ่งการเตือนให้สำนึกในบาป
แต่โดยทางกายที่แตกหักและโลหิดที่หลั่งออกของพระเยซู บาปของเราได้ถูกขจัดออกไป
และบัดนี้ นี่คือสิ่งที่เราต้องจำและต้องได้รับการเตือนให้บ่อย ๆ บาปของเราได้ถูกขจัดออกไปแล้ว มันไม่มีอยู่แล้ว
มันไม่ได้แค่เพียง "ถูกปกคลุม" ดังที่เป็นในพันธสัญญาเดิม แต่มันได้ถูกขจัดออกไป
การนำมันกลับขึ้นมาอีกเป็นการปฏิเสธงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซู
การทำแบบนั้นเป็นการไม่ได้ระลึกถึงกายที่แตกหักและโลหิตที่หลั่งออกของพระองค์ทางซึ่งบาปของเราได้ถูกขจัดออกไป

แล้วเมื่อไรล่ะสำหรับ 1ยอห์น 1:9? จำเป็นที่เราต้องนำบาปของเราขึ้นมาอีกครั้งด้วยการ "สารภาพ" มันเพื่อจะได้รับการชำระและได้รับการยกโทษหรือ?
เกิดปัญหาขึ้นหลายอย่างกับการสร้างหลักข้อเชื่อเรื่องการสารภาพบาปของคริสเตียนจากพระธรรมเพียงข้อเดียวโดด ๆ นี้
สิ่งแรกเลย ไม่มีที่ไหนในพันธสัญญาใหม่ที่มีคำสั่งสำหรับคริสเตียนให้สารภาพบาปของพวกเขาเพื่อให้ได้รับการชำระและการยกโทษ
แม้แต่ในหนังสือทั้งหมดที่อ.เปาโลเขียน และในการที่เขาจัดการกับพฤติกรรมบาปในคริสตจักร (และเขาได้จัดการกับมันเป็นจำนวนมาก) ไม่มีแม้สักครั้งที่เขาบอกให้สารภาพบาป
ความจริง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาเตือนคริสตจักรให้ระลึกถึงงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซูและความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ชอบธรรม ได้รับการชำระ ได้รับการยกโทษ และอื่น ๆ แล้ว
ดังตัวอย่างใน 1 โครินทร์ 6:9-11 เขาได้หนุนใจพวกเขาที่จะไม่ดำเนินชีวิตเหมือนดังคนที่ยังไม่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์และชอบธรรมแล้ว -- เพราะพวกเขาเองได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ และได้ถูกทำให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้ว
และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็นเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจงออกไปและดำเนินชีวิตตามนั้น!

อ.เปาโลยังได้พูดต่อว่า "ข้าพเจ้าทำสิ่งสารพัดได้ ไม่มีใครห้าม" ไม่มีการกล่าวโทษและเรายังคงถูกชำระแล้วแม้เมื่อเราไม่ได้ดำเนินชีวิตเหมือนดังผู้ที่เราเป็นก็ตาม
"แต่" เขาพูดต่อ "ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะทำได้นั้นเป็นประโยชน์.. ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะทำให้เจริญขึ้น.. ข้าพเจ้าไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใดเลย"
ประเด็นไม่ใช่ว่าเราสูญเสียความชอบธรรม ความบริสุทธิ์ หรือการถูกชำระแล้วไป
ประเด็นคือการดำเนินชีวิตออกมาจากผู้ที่เราเป็นอย่างแท้จริงเพราะว่านั่นคือผู้ที่พระเจ้าทำให้เราเป็นจริง ๆ
ประเด็นจึงไม่ใช่เป็นเรื่องของการชำระแล้วชำระอีกและยกโทษแล้วยกโทษอีกทุกครั้งที่เราทำบาป!
เราได้รับการชำระแล้วครั้งเดียวพอสำหรับทุกสิ่ง " และท่านที่ตายแล้วด้วยการละเมิดทั้งหลายของท่าน และด้วยเหตุที่เนื้อหนังของท่านมิได้เข้าสุหนัต พระองค์ได้ทรงให้ท่านมีชีวิตร่วมกับพระองค์ และทรงโปรดยกโทษการละเมิดทั้งหลายของท่าน พระองค์ทรงฉีกกรมธรรม์ซึ่งได้ผูกมัดเราด้วยบัญญัติต่างๆซึ่งขัดขวางเรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้นโดยทรงตรึงไว้ที่กางเขน" (โคโลสี 2:13-14)

จากส่วนที่เหลือทั้งหมดของความจริงในพันธสัญญาใหม่ มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่ายอห์นไม่ได้กล่าวถึงคริสเตียนในบทแรกของจดหมายฝากของเขา
เพราะว่าคริสเตียนได้รับการยกโทษเรียบร้อยแล้วและถูกชำระจากความอธรรมทั้งสิ้นแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ยอห์นจะต้องบอกพวกเขาถึงวิธีที่จะได้รับการยกโทษและการชำระอีก!
แต่คริสตจักรที่เขากำลังเขียนไปถึงนั้นเป็นคริสตจักรที่มีการผสมผสานดังที่หลาย ๆ คริสตจักรเป็น ก็คือไม่ได้มีแค่ผู้เชื่อเท่านั้นแต่มีผู้ที่ยังไม่เชื่ออยู่ด้วย!
และท่ามกลางพวกเหล่านั้นในคริสตจักรก็มีพวกนอสติก ผู้ซึ่งไม่เชื่อว่าพระเยซูได้บังเกิดมาในเนื้อหนัง ยอห์นเขียนไปถึงพวกเขา และเราจะดูถึงเรื่องนี้ในตอนที่สอง

Comments