ตัวตนของเราที่แท้จริง (Our Real Identity)

ขอแบ่งปันเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ตัวตนของเราที่แท้จริง (our real identity) ในสายตาพระเจ้าดังนี้ครับ
(แปลจากคำเทศนาบางตอนของ Ps.Joseph Prince)

เคยมีผู้เชื่อที่มีชื่อเสียงมากในยุคศตวรรษที่ 19 กล่าวไว้อย่างนี้ครับว่า
"จนกว่าที่เราจะมาถึงความเข้าใจที่แท้จริงว่าพระเจ้าได้รับพระเกียรติสูงสุดโดยการตายของพระบุตรของพระองค์ เราจะไม่สามารถมีเสรีภาพที่จะเข้ามาในการทรงสถิตของพระองค์"

เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทับบนบัลลังก์และกำลังสงสารพวกเราอยู่ ไม่ใช่!
พระองค์กำลังชื่นชมยินดีในพวกเราอยู่!
เพราะว่าโดยการตายของพระบุตรพระองค์ เราทั้งหลายได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยสมบูรณ์แล้ว
มันไม่ขึ้นอยู่กับเนื้อหนังของคุณอีกต่อไปแล้ว เนื้อหนังของคุณสามารถที่จะทำสิ่งดี หรือทำสิ่งที่ไม่ดี
ความจริงก็คือ เนื้อหนังคุณได้ตายแล้ว!
พระเจ้าไม่ได้ตัดสินคุณบนพื้นฐานของเนื้อหนังของคุณอีกต่อไป
เนื้อหนังของคุณได้ถูกตรึงแล้ว
บัดนี้พระเจ้ามองมาที่คุณผ่านงานที่สำเร็จแล้วของพระบุตรพระองค์
คุณอยู่ในพระเยซูคริสต์ และนั่นคือที่พระเจ้าเห็นคุณ

มันดึสำหรับคุณถ้าคุณเห็นตัวเองในลักษณะนั้น
เป็นไปได้ที่คุณอาจไม่ได้เห็นตัวคุณเองในแบบนั้น
แต่เรามั่นใจได้ เพราะว่าพระเจ้าทรงเห็นอย่างถูกต้องแน่นอน
จริง ๆ แล้วมันเป็นความชื่นชมยินดีของคุณเองต่างหาก ถ้าคุณได้เห็นตัวคุณเองอยู่ในพระคริสต์
คุณจะไม่สามารถชื่นชมยินดีในสิ่งที่คุณเป็นอย่างแท้จริงได้ ถ้าคุณไม่ได้ตระหนักความจริงนี้

ความจริงก็คือพระเจ้าทรงยอมรับเราอย่างสมบูรณ์แล้ว เราเป็นที่โปรดปรานอย่างมากในพระบุตรผู้ทรงเป็นที่รัก

อย่ายอมรับอะไรที่น้อยไปกว่านั้น
อย่าเข้ามาหาพระเจ้าด้วยการพยายามให้พระเจ้าประทับใจด้วยการงานที่ดี
เพราะนั่นคุณกำลังลดทอนงานของพระคริสต์ กำลังทำให้พระคุณของพระเจ้าเป็นโมฆะ เมื่อคุณทำอย่างนั้น
พระคัมภีร์บอกว่า
"ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงสามารถเป็นนิตย์ที่จะช่วยคนทั้งปวง ที่ได้เข้ามาถึงพระเจ้า โดยทางพระองค์นั้นให้ได้รับความรอด เพราะว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ เพื่อช่วยทูลขอพระกรุณาให้คนเหล่านั้น" (ฮีบรู 7:25)

เรามีพี่ชายคนโตที่นั่งอยู่เบื้องขวาพระบิดา และพระองค์อยู่ที่นั่นเพื่อเรา
ขอย้ำว่าพระองค์อยู่ที่นั่นเพื่อเรา
มหาปุโรหิตทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชนต่อพระเจ้า ปุโรหิตมิได้เป็นตัวแทนของพระเจ้าต่อประชาชนมากเท่ากับเป็นตัวแทนของประชาชนต่อพระเจ้า
ผู้เผยพระวจนะเป็นตัวแทนของพระเจ้าต่อประชาชน แต่ปุโรหิตเป็นตัวแทนของประชาชนต่อพระเจ้า
ปุโรหิตดีแค่ไหน คือสิ่งที่พระเจ้าใช้ตัดสินประชาชน
ประชาชนอาจมีมลทิน ไม่สะอาด แต่ถ้าปุโรหิตบริสุทธิ์ มหาปุโรหิตของพวกเขาบริสุทธิ์ พระเจ้าก็ยอมรับประชาชนในสถานภาพของมหาปุโรหิตนั้น
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อก่อนในอิสราเอล ไม่ขึ้นกับว่าประชาชนดีแค่ไหน ถ้ามหาปุโรหิตทำบาปในวันลบมลทินบาป พระเจ้าก็ไม่รับประชาชนทั้งประเทศ
ดังนั้นสภาพภาพของพวกเขาทั้งหมดจึงถูกรวบรวมไว้ที่สถานภาพของมหาปุโรหิตของเขา
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมพระคัมภีร์ไม่ได้เรียกพระเยซูว่าผู้เผยพระวจนะของเราแต่เรียกพระองค์ว่ามหาปุโรหิตของเรา เพราะพระองค์เป็นตัวแทนของเราต่อพระเจ้า
และทางเดียวที่เราจะสามารถสูญเสียการยอมรับอย่างสมบูรณ์นี้จากพระเจ้าได้ ก็ต่อเมื่อพระเยซูได้หล่นจากบัลลังก์ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ทางเดียวที่เราจะสูญเสียการยอมรับจากพระเจ้า ก็คือถ้าพระเยซูกลับลงมาบนโลก มาเกิดเป็นทารกอีกครั้ง และทำบาปในโลกนี้

ดังนั้นการยอมรับจากพระเจ้าสำหรับคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับอะไรที่คุณทำอีกต่อไป
สิ่งดีที่คุณทำ ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณเข้าใกล้พระเจ้าได้มากขึ้น
และสิ่งไม่ดีที่คุณทำ ก็ไม่ได้ทำให้คุณขาดจากการทรงสถิตของพระองค์
เพราะว่าทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ในพระเยซูคริสต์
คุณได้ถูกนำเข้ามาใกล้ โดยพระโลหิตของพระคริสต์

การรู้ในสิ่งนี้ การชื่นชมยินดีในสิ่งนี้จะส่งผลต่อสิ่งที่คุณทำและพฤติกรรมของคุณ
มันจะส่งผลต่อสิ่งที่เรียกว่า ผลพระวิญญาณบริสุทธิ์
ผลพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องจดจ่อ (focus)
มันเป็นผลที่เกิดขึ้นเอง (by-product)