คริสเตียนกับการสารภาพบาป?
น่าแปลกไหมครับที่ว่า อ.เปาโลผู้ซึ่งเป็นผู้เขียนพระคัมภีร์ใหม่ถึงสองในสาม ไม่ได้เขียนถึงเรื่องการสารภาพบาป(ของคริสเตียน)สักครั้ง
พระคัมภีร์ที่เราใช้เกี่ยวกับการสารภาพบาปของคริสเตียนมาจากพระคัมภีร์ยอดฮิตคือ 1 ยอห์น 1:9 โดยมิได้ตระหนักว่า พระธรรม 1 ยอห์น บทที่ 1 นั้นเขียนไปถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อ (ในคจ.ที่ยอห์นเขียนไปถึงนั้นมีผู้ที่ยังไม่เชื่อในการเสด็จมาเป็นเนื้อหนังของพระเยซูเข้ามาอยู่ด้วย - Gnostic) แล้วพอขึ้นบทที่ 2 จึงเริ่มเขียนถึงผู้เชื่อ (ใช้คำว่า "ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ย")
พระเจ้าทรงยกโทษให้เราตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว คือ "ขณะที่เรายังเป็นคนบาปพระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา" แล้วเมื่อพระบิดาได้ลงโทษบาปทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคตของเราทั้งสิ้นแล้วที่พระกายพระคริสต์บนไม้กางเขน ยังจะมีบาปอะไรเหลืออีกสำหรับเราผู้เชื่อ และโดยโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้ทำให้เราเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว ตัวตนจริง ๆ (Identity) ของเราก็คือผู้ชอบธรรมแล้วจริง ๆ บางครั้งเมื่อคริสเตียนพลาดไปหรือล้มลง สิ่งนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนที่แท้จริงของเราได้คือผู้ชอบธรรม เราก็แค่ลุกขึ้นแล้วดำเนินชีวิตอย่างผู้ชอบธรรมต่อไป เปรียบเหมือนกับว่า ถ้าผีเสื้อแสนสวยตัวหนึ่ง กำลังบินอย่างร่าเริงไปตามที่ต่าง ๆ บังเอิญผลัดตกลงไปในถังขยะ ถามว่าผีเสื้อตัวนั้นจะต้องกลับกลายไปเป็นดักแด้อีกครั้งไหม ก็ไม่ ใช่ไหมครับ สิ่งที่ผีเสื้อตัวนั้นควรทำก็คือแค่บินออกจากถังขยะนั้น แล้วก็บินต่อไป อย่าตกลงไปอีก
ความจริงการสารภาพบาปที่คริสเตียนส่วนใหญ่ทำกันนั้น เป็นสิ่งที่พวกเรา (มนุษย์) ใส่เข้าไปเองครับ ซึ่งถ้าจะลองคิดว่าต้องทำจริง ๆ แล้วจะมีใครไหมที่สามารถสารภาพบาปทุกอย่างที่ได้ทำไปแล้วได้ครบถ้วน เป็นไปไม่ได้เลย จริงไหมครับ
เมื่อก่อนที่เราอยู่ในบาปของอาดัม เราเชื่อว่าเราเป็นคนบาป โดยตระหนักว่าไม่ว่าเราทำความดีอะไรแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเราเป็นคนชอบธรรมได้
แต่พอเราถูกย้ายมาอยู่ในความชอบธรรมของพระคริสต์ เรากลับไม่ค่อยมั่นใจว่าเราเป็นคนชอบธรรมแล้ว เรากลายเป็นคนบาปทุกครั้งที่เราพลาด จนกว่าเราจะสารภาพบาป!!??
นั่นแปลว่างานของอาดัมที่ทำกับเราไว้ยิ่งใหญ่และทรงพลังกว่างานของพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าสิครับ จริงไหม?
ไม่มีการปรับโทษอีกแล้วสำหรับผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ครับดังใน
โรม [8:1] "เหตุฉะนั้นการลงโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์"
คริสเตียนจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยการสารภาพบาปเพื่อเรียกร้องการยกโทษอีก เพราะพระเจ้ายกโทษให้เราตั้งแต่ต้นแล้ว และก็ไม่ได้เอาโทษเราอีก
หมายเหตุ
- สำหรับพี่น้องบางท่านที่อาจรู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมให้คริสเตียนทำบาปมากขึ้นสิ ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้น บาปยังคงเป็นบาปที่ร้ายแรง เราไม่ได้เห็นด้วยกับบาปแน่ แต่เราตระหนักถึงฤทธิ์อำนาจของโลหิตพระคริสต์มากกว่าบาป ตระหนักถึงพระคุณที่จะขจัดบาปออกไปได้อย่างแท้จริงมากกว่าเชื่อในความตั้งใจ กำลัง วินัย ของมนุษย์เอง (willpower)
- ส่วนเรื่อง "การชำระ" จะขออธิบายทีหลังนะครับ (เดี๋ยวจะยาวไป )
พระคัมภีร์ที่เราใช้เกี่ยวกับการสารภาพบาปของคริสเตียนมาจากพระคัมภีร์ยอดฮิตคือ 1 ยอห์น 1:9 โดยมิได้ตระหนักว่า พระธรรม 1 ยอห์น บทที่ 1 นั้นเขียนไปถึงผู้ที่ยังไม่เชื่อ (ในคจ.ที่ยอห์นเขียนไปถึงนั้นมีผู้ที่ยังไม่เชื่อในการเสด็จมาเป็นเนื้อหนังของพระเยซูเข้ามาอยู่ด้วย - Gnostic) แล้วพอขึ้นบทที่ 2 จึงเริ่มเขียนถึงผู้เชื่อ (ใช้คำว่า "ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ย")
พระเจ้าทรงยกโทษให้เราตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว คือ "ขณะที่เรายังเป็นคนบาปพระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา" แล้วเมื่อพระบิดาได้ลงโทษบาปทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคตของเราทั้งสิ้นแล้วที่พระกายพระคริสต์บนไม้กางเขน ยังจะมีบาปอะไรเหลืออีกสำหรับเราผู้เชื่อ และโดยโลหิตของพระเยซูคริสต์ได้ทำให้เราเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว ตัวตนจริง ๆ (Identity) ของเราก็คือผู้ชอบธรรมแล้วจริง ๆ บางครั้งเมื่อคริสเตียนพลาดไปหรือล้มลง สิ่งนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนที่แท้จริงของเราได้คือผู้ชอบธรรม เราก็แค่ลุกขึ้นแล้วดำเนินชีวิตอย่างผู้ชอบธรรมต่อไป เปรียบเหมือนกับว่า ถ้าผีเสื้อแสนสวยตัวหนึ่ง กำลังบินอย่างร่าเริงไปตามที่ต่าง ๆ บังเอิญผลัดตกลงไปในถังขยะ ถามว่าผีเสื้อตัวนั้นจะต้องกลับกลายไปเป็นดักแด้อีกครั้งไหม ก็ไม่ ใช่ไหมครับ สิ่งที่ผีเสื้อตัวนั้นควรทำก็คือแค่บินออกจากถังขยะนั้น แล้วก็บินต่อไป อย่าตกลงไปอีก
ความจริงการสารภาพบาปที่คริสเตียนส่วนใหญ่ทำกันนั้น เป็นสิ่งที่พวกเรา (มนุษย์) ใส่เข้าไปเองครับ ซึ่งถ้าจะลองคิดว่าต้องทำจริง ๆ แล้วจะมีใครไหมที่สามารถสารภาพบาปทุกอย่างที่ได้ทำไปแล้วได้ครบถ้วน เป็นไปไม่ได้เลย จริงไหมครับ
เมื่อก่อนที่เราอยู่ในบาปของอาดัม เราเชื่อว่าเราเป็นคนบาป โดยตระหนักว่าไม่ว่าเราทำความดีอะไรแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเราเป็นคนชอบธรรมได้
แต่พอเราถูกย้ายมาอยู่ในความชอบธรรมของพระคริสต์ เรากลับไม่ค่อยมั่นใจว่าเราเป็นคนชอบธรรมแล้ว เรากลายเป็นคนบาปทุกครั้งที่เราพลาด จนกว่าเราจะสารภาพบาป!!??
นั่นแปลว่างานของอาดัมที่ทำกับเราไว้ยิ่งใหญ่และทรงพลังกว่างานของพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าสิครับ จริงไหม?
ไม่มีการปรับโทษอีกแล้วสำหรับผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ครับดังใน
โรม [8:1] "เหตุฉะนั้นการลงโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์"
คริสเตียนจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยการสารภาพบาปเพื่อเรียกร้องการยกโทษอีก เพราะพระเจ้ายกโทษให้เราตั้งแต่ต้นแล้ว และก็ไม่ได้เอาโทษเราอีก
หมายเหตุ
- สำหรับพี่น้องบางท่านที่อาจรู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมให้คริสเตียนทำบาปมากขึ้นสิ ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้น บาปยังคงเป็นบาปที่ร้ายแรง เราไม่ได้เห็นด้วยกับบาปแน่ แต่เราตระหนักถึงฤทธิ์อำนาจของโลหิตพระคริสต์มากกว่าบาป ตระหนักถึงพระคุณที่จะขจัดบาปออกไปได้อย่างแท้จริงมากกว่าเชื่อในความตั้งใจ กำลัง วินัย ของมนุษย์เอง (willpower)
- ส่วนเรื่อง "การชำระ" จะขออธิบายทีหลังนะครับ (เดี๋ยวจะยาวไป )
Comments
Post a Comment