การจัดการกับบาปในชีวิตของเรา

Dealing With Sins In Our Lives
by Steve McVey (แปลจาก http://gracewalkministries.blogspot.com/2010/03/dealing-with-sins-in-our-lives.html)

การจัดการกับบาปในชีวิตของเรา

จากหัวข้อที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายของหนังสือในร้านหนังสือคริสเตียนและความสนใจที่มีอยู่ตลอดเวลาในคำเทศนาและการศึกษาพระคัมภีร์ภายในแวดวงคริสจักร มันไม่ยากที่จะสรุปได้ว่าหัวข้อเรื่องที่สำคัญที่สุดท่ามกลางผู้เชื่อก็คือความบาป การจัดการกับความบาปบ่อยครั้งดูเหมือนจะเป็นเหตุผลสำหรับพันธกิจสากลและเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดที่ผู้ซึ่งติดตามพระเยซูรับมันเข้ามาใช้ในชีวิตของพวกเขา

การเอาชนะการกระทำบาปในชีวิตได้เผาผลาญความคิดและพลังงานของคริสเตียนที่จริงใจเป็นจำนวนมาก พวกเขาอุทิศตัวทั้งหมดเพื่อหยุดการกระทำผิดที่พวกเขาทำและแทนที่การกระทำเหล่านั้นด้วยการกระทำที่ถวายเกียรติพระเจ้า ในขณะที่แรงจูงใจของพวกเขานั้นบริสุทธิ์แน่นอน แต่เป้าหมายและจุดสนใจของพวกเขาถูกนำให้ผิดไปอย่างสิ้นเชิง

เราไม่ได้ถูกเรียกมาตามในพระคัมภีร์ให้พุ่งความสนใจของเราไปที่ความบาปของเราและทุ่มเทพลังงานของเราไปในการกำจัดมัน ที่จริงแล้วการทำอย่างนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ลดการกระทำบาปลงได้ แต่มันจะยิ่งเพิ่มความประพฤติผิดในการดำเนินชีวิตของเราด้วยซ้ำ ความจริงของเรื่องนี้ก็คือว่าพระคัมภีร์สอนเราไม่ให้เพ่งความสนใจไปที่บาปเลย แต่ให้เพ่งความสนใจจดจ่ออยู่ที่พระเยซูคริสต์

อัครทูตเปาโลจัดการกับเรื่องจุดสนใจของเรานี้โดยการเตือนบรรดาคริสตจักรที่เขาตั้งขึ้นในพระคุณไม่ให้นำบาปมาเป็นจุดสนใจของพวกเขา แต่ให้มองที่พระเยซูแทน ถึงคริสตจักรชาวโคโลสี เขาเขียนว่า "จงเอาใจใส่สิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก" (โคโลสี 3:2) เขาเตีอนคริสตจักรชาวโรมว่า "ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนัง ก็คือความตาย และซึ่งปักใจอยู่กับพระวิญญาณก็คือชีวิตและสันติสุข" (โรม 8:6)

การพยายามเอาชนะความบาปด้วยการเพ่งความสนใจไปที่มันนั้นกลับนำมาซึ่งผลที่ตรงกันข้ามกับที่เราต้องการในชีวิต หากเราจดจ่ออยู่กับอะไรที่เราทำผิดและพยายามหาทางว่าทำอย่างไรถึงจะชนะพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นได้ เราก็จะมาถึงซึ่งแผนการบางอย่างเสมอที่ต้องอาศัยความตั้งใจจริงและความแน่วแน่ของเรา เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มันไม่สำคัญว่าเรามีความจริงใจมากแค่ไหน แต่เรากำลังตั้งตัวเราเองไว้แล้วในความล้มเหลว การนำวิธีที่ขัดแย้งกับอะไรที่พระคัมภีร์กล่าวไว้เกี่ยวกับบาปของเรามาใช้ จะไม่ได้ผลไม่ว่าความจริงเราจะจริงใจและแม้เราจะขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าก็ตาม พระองค์จะไม่ช่วยเราด้วยวิธีของเรา แต่จะปล่อยให้เราล้มเหลวแทน จนกว่าเราจะมาถึงที่ซึ่งเราเต็มใจที่จะเรียนและยอมรับคำตอบของพระองค์เกี่ยวกับการกระทำบาปของเรา

วิธีใด ๆ ที่เรานำมาใช้เพื่อเอาชนะความบาปของเราด้วยการบังคับตนเองถือเป็นการเคร่งในบทบัญญัติ เพราะว่ามันจะกระตุ้นเร้าให้เกิดความหวังผิด ๆ ในเราว่ามีบางอย่างที่เราสามารถทำเพื่อปราบมันได้ ความเป็นจริงก็คือเราไม่จำเป็นต้องเอาชนะบาปของเราเพราะว่าพระเยซูคริสต์ได้ปราบมันไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเราพยายามทำในสิ่งที่พระองค์ได้ทำสำเร็จแล้ว เราก็กำลังปฏิเสธความเพียงพอของพระคุณของพระองค์ในสิ่งนั้น และกำลังพยายามนำวิธีที่เคร่งในบทบัญญัติมาเพื่อทำสิ่งนั้นด้วยตนเอง วิธีการที่เคร่งในบทบัญญัติเหล่านั้นจะกำหนดเราไปยังความล้มเหลว อ.เปาโลเขียนไว้ว่า "ตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้น" (โรม 7:5) เขาได้เตือนชาวโครินทร์ที่ติดกับดักในการกระทำบาปว่า "ฤทธิ์ของบาปคือธรรมบัญญัติ" (1 โครินทร์ 15:56)

ความพยายามแบบเคร่งในบทบัญญัติที่จะเอาชนะบาปด้วยกฎเกณฑ์ที่ตนตั้งขึ้นมาและการตั้งใจแน่วแน่ของตนเองนั้นเป็นต่อบาปเหมือนดังที่น้ำมันเป็นต่อไฟ มันจะไม่หยุดบาปแต่จะยิ่งทำให้เรื่องเลวร้ายขึ้น ทางเดียวที่จะชื่นชมยินดีในชัยชนะเหนือความบาปได้ก็คือการพักสงบในชัยชนะที่เป็นของเราแล้วด้วยงานที่สำเร็จแล้วของพระคริสต์ พระองค์ได้ปราบความบาปครั้งเดียวเพื่อตลอดไป การเปลี่ยนแปลงจะมาถึงยังชีวิตของเราเมื่อเราเชื่อในความจริงนั้นและหยุดการพยายามที่จะทำบางอย่างที่พระองค์ได้ทำเรียบร้อยแล้ว เราเพียงแค่พักสงบในชัยชนะของพระองค์และพุ่งความสนใจของเราไปที่พระองค์ เมื่อเราทำอย่างนั้น บาปที่ติดอาวุธและมีกำลังเหนือเราก็จะหมอบราบลงและไร้กำลังไป

Comments